ฉลากอาหารต้องมีอะไรบ้าง? มาตรฐาน อย. และวิธีเลือกวัสดุ

  สำหรับผู้ประกอบการธุรกิจอาหาร การทำฉลากที่ถูกต้องตามกฎหมายไม่ใช่แค่เรื่องของการปฏิบัติตามข้อบังคับ แต่ยังเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือและปกป้องสุขภาพผู้บริโภค

  ฉลากอาหารที่สมบูรณ์ต้องมีข้อมูลครบถ้วนตามมาตรฐาน อย. และเลือกใช้วัสดุที่เหมาะสมกับประเภทอาหาร บทความนี้จะพาคุณทำความเข้าใจข้อกำหนดที่อัปเดตล่าสุด พร้อมวิธีเลือกวัสดุฉลากให้เหมาะกับสินค้าของคุณ

ข้อกำหนดฉลากอาหารตามมาตรฐาน อย.

  ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 450) พ.ศ. 2567 ฉลากอาหารทุกชนิดที่จำหน่ายในภาชนะบรรจุต้องแสดงข้อมูล 7 รายการบังคับ ดังนี้

7 ข้อมูลบังคับที่ต้องมีบนฉลากอาหาร

1. ชื่ออาหารภาษาไทย ต้องมีขนาดไม่เล็กกว่าชื่อภาษาต่างประเทศ แสดงต่อเนื่องในแนวนอน

2. เลขสารบบอาหาร (เลข อย.) ประกอบด้วยตัวเลข 13 หลัก ภายในกรอบเครื่องหมาย อย. โดยขนาดตัวอักษรต้องไม่เล็กกว่า 2 มิลลิเมตร และสีต้องตัดกับสีพื้นของกรอบอย่างชัดเจน

3. ชื่อและที่ตั้งผู้ผลิต/ผู้แบ่งบรรจุ/ผู้นำเข้า พร้อมระบุคำว่า "ผลิตโดย" หรือ "ผลิต-แบ่งบรรจุโดย" กำกับไว้

4. ปริมาณอาหาร แสดงเป็นระบบเมตริก เช่น กรัม มิลลิลิตร

5. ส่วนประกอบที่สำคัญ เรียงลำดับตามปริมาณจากมากไปน้อย รวมถึงข้อมูลสำหรับผู้แพ้อาหาร เช่น นม ไข่ ถั่ว กุ้ง

6. วันที่ผลิต/หมดอายุ/ควรบริโภคก่อน อาหารที่เก็บได้ไม่เกิน 90 วัน ต้องระบุวัน เดือน ปี ส่วนอาหารที่เก็บได้นานกว่าอาจระบุเฉพาะเดือนปี

7. ข้อความเพิ่มเติมตามประเภทอาหาร เช่น การใช้วัตถุให้ความหวานแทนน้ำตาล การแต่งกลิ่น/รส หรือข้อความเตือนพิเศษ

ฉลากโภชนาการ - มาตรฐานใหม่ที่ต้องรู้

  ประกาศฉบับที่ 445-448 พ.ศ. 2567 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 2 กรกฎาคม 2567 โดยผ่อนผันให้ใช้ฉลากเดิมได้ถึง 1 กรกฎาคม 2570 อาหารที่ต้องแสดงฉลากโภชนาการ ได้แก่ อาหารที่มีการกล่าวอ้างคุณประโยชน์ต่อสุขภาพ หรืออาหาร 13 ประเภทที่กำหนด เช่น อาหารขบเคี้ยว เครื่องดื่ม ขนม

  สิ่งสำคัญที่เปลี่ยนแปลงคือการต้องระบุ Added Sugar (น้ำตาลที่เพิ่มเติม) แยกจากน้ำตาลรวม เพื่อช่วยผู้บริโภคควบคุมปริมาณน้ำตาลและลดความเสี่ยงต่อโรคอ้วนและเบาหวาน

วัสดุฉลากอาหาร - เลือกอย่างไรให้เหมาะกับสินค้า

  การเลือกวัสดุที่เหมาะสมไม่เพียงแต่ทำให้ฉลากสวยงามและทนทาน แต่ยังต้องปลอดภัยต่อผู้บริโภคด้วย ต้องเป็นวัสดุ Food Grade ที่ได้รับการรับรอง

วัสดุยอดนิยมสำหรับฉลากอาหาร

1.กระดาษ (Paper)

  กระดาษเป็นตัวเลือกที่ประหยัดที่สุดสำหรับฉลากอาหาร เหมาะกับขนม บิสกิต อาหารแห้ง หรือสินค้าที่บรรจุในกล่องและไม่ต้องสัมผัสน้ำหรือความชื้น มีให้เลือก 3 ประเภท

1.1 กระดาษขาวมัน/เงา

• ผิวเงาสะท้อนแสง ทำให้สีที่พิมพ์ออกมาดูสดใส คมชัด และดึงดูดสายตา

• เหมาะกับ: ฉลากโลโก้ ฉลากที่ต้องการความโดดเด่น ฉลากบาร์โค้ด

• ข้อควรระวัง: เขียนทับด้วยปากกายาก อาจเลอะได้

1.2 กระดาษขาวด้าน

• ผิวด้านคล้ายกระดาษทั่วไป ดูสบายตา ไม่มีความมันเงา

• เหมาะกับ: ฉลากที่ต้องเขียนข้อมูลเพิ่มเติม เช่น วันผลิต วันหมดอายุ ฉลากบาร์โค้ด

• ข้อดี: เขียนด้วยปากกาหรือดินสอได้ง่าย ดูเรียบง่ายสบายตา

1.3 กระดาษคราฟท์

• สีน้ำตาลธรรมชาติ ให้ความรู้สึกวินเทจและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

• เหมาะกับ: สินค้าออร์แกนิก ร้านกาแฟ ร้านอาหาร สินค้าที่ต้องการสื่อภาพลักษณ์ธรรมชาติ

• ข้อดี: เนื้อกระดาษหนาและเหนียวกว่ากระดาษทั่วไป ทนการเสียดสีและฉีกขาดได้ดีกว่า ต้านทานน้ำมันและความชื้นได้ในระดับหนึ่ง

2.PP (Polypropylene) 

  เป็นวัสดุที่ได้รับความนิยมสูงสุดสำหรับฉลากอาหาร เพราะกันน้ำได้ดี ทนความร้อนสูง 90°C ทนสารเคมี และเป็น Food Grade ที่ปลอดภัย เหมาะกับอาหารบรรจุร้อน เครื่องดื่ม ขวดซอส น้ำมันอาหาร และอาหารที่เข้าไมโครเวฟได้

ทำไมต้องเลือกโรงพิมพ์มาตรฐาน ISO สำหรับฉลากอาหาร

  การพิมพ์ฉลากอาหารไม่ใช่แค่เรื่องของความสวยงาม แต่เป็นเรื่องของความถูกต้องตามกฎหมายและความปลอดภัย โรงพิมพ์ที่มีมาตรฐาน ISO จะมีระบบควบคุมคุณภาพที่ช่วยให้ฉลากของคุณถูกต้อง ครบถ้วน

  โรงพิมพ์มาตรฐานจะควบคุมขนาดตัวอักษรให้ไม่ต่ำกว่า 2 มิลลิเมตรตามกฎหมายกำหนด มีระบบจัดการสีที่ทำให้สีตัดกันชัดเจน ใช้หมึก Food Grade ที่ปลอดภัย และมีทีมเทคนิคคอยตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลก่อนเข้าสู่กระบวนการผลิต ช่วยลดความเสี่ยงในการผลิตฉลากที่ผิดกฎหมายและอาจถูกเรียกคืนสินค้า

คำถามที่พบบ่อย

Q: ธุรกิจอาหารขนาดเล็กต้องทำฉลากตามมาตรฐาน อย. เหมือนกับธุรกิจใหญ่ไหม?

A: ใช่ครับ ทุกธุรกิจอาหารที่จำหน่ายในภาชนะบรรจุต้องปฏิบัติตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขเหมือนกัน โดยต้องแสดงข้อมูลครบ 7 ข้อบังคับ และมีเลข อย. 13 หลัก Code Label รองรับทั้งธุรกิจขนาดเล็กและใหญ่ ด้วยปริมาณขั้นต่ำเพียง 1,000 ดวง พร้อมให้คำปรึกษาเรื่องข้อกำหนดทางกฎหมายฟรี

ฉลากอาหารที่ถูกต้อง = ความน่าเชื่อถือของแบรนด์

  ฉลากอาหารที่ถูกต้องครบถ้วนตามมาตรฐาน อย. ไม่เพียงช่วยให้ธุรกิจของคุณปลอดภัยจากการผิดกฎหมาย แต่ยังสร้างความน่าเชื่อถือและภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์ การเลือกใช้วัสดุที่เหมาะสมกับประเภทอาหารจะช่วยให้ฉลากคงทนตลอดอายุสินค้า และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้บริโภค

  Code Label พร้อมเป็นพาร์ทเนอร์ด้านการผลิตฉลากอาหารของคุณ ด้วยประสบการณ์กว่า 20 ปี มาตรฐาน ISO และหมึก Food Grade ที่ปลอดภัย เรามีทีมเทคนิคผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาตั้งแต่การตรวจสอบข้อมูลบนฉลากให้ถูกต้องตามประกาศ อย. ไปจนถึงการแนะนำวัสดุที่เหมาะสมกับประเภทอาหารของคุณ 

  คุณสามารถสอบถามรายละเอียดและขอใบเสนอราคาได้ที่

• Line OA: @codelabel

• โทรศัพท์ 02-539-4359

  เพื่อเริ่มต้นสร้างฉลากอาหารที่ถูกต้อง ปลอดภัย และสะท้อนคุณภาพของแบรนด์คุณ